เทคโนโลยีมอเตอร์สเต็ปเปอร์ไฮบริดที่เน้นการใช้งานช่วยปรับปรุงแรงบิดของมอเตอร์แบบไดนามิกอย่างมาก

มอเตอร์สเต็ปเปอร์ถือเป็นมอเตอร์ที่ท้าทายที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีสเต็ปเปอร์มอเตอร์ที่มีความแม่นยำสูง ความละเอียดสูง และการเคลื่อนไหวที่ราบรื่น โดยทั่วไปแล้วมอเตอร์สเต็ปเปอร์ต้องมีการปรับแต่งเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุดในการทำงานเฉพาะแอปพลิเคชั่นคุณลักษณะการออกแบบที่กำหนดเองโดยทั่วไปได้แก่ รูปแบบการพันของสเตเตอร์ การกำหนดค่าเพลา ตัวเรือนที่กำหนดเอง และตลับลูกปืนเฉพาะทาง ซึ่งทำให้การออกแบบและผลิตมอเตอร์สเต็ปเปอร์เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก มอเตอร์สามารถออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานได้ แทนที่จะบังคับให้การใช้งานนั้นพอดีกับมอเตอร์ และการออกแบบมอเตอร์ที่ยืดหยุ่นได้สามารถใช้พื้นที่น้อยมาก มอเตอร์สเต็ปเปอร์แบบไมโครนั้นออกแบบและผลิตได้ยาก และมักไม่สามารถแข่งขันกับมอเตอร์ขนาดใหญ่ได้มอเตอร์ไมโครสเต็ปเปอร์นำเสนอแนวทางการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และด้วยการถือกำเนิดของเทคโนโลยีมอเตอร์สเต็ปเปอร์ไฮบริด มอเตอร์ขนาดเล็กจึงเริ่มถูกนำมาใช้ในอุปกรณ์ทางการแพทย์และระบบอัตโนมัติในห้องปฏิบัติการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอปพลิเคชันที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น ปั๊มขนาดเล็ก การวัดและควบคุมของเหลว วาล์วหนีบ และการควบคุมเซนเซอร์ออปติคัล มอเตอร์สเต็ปเปอร์ขนาดเล็กสามารถนำไปติดตั้งในเครื่องมือไฟฟ้า เช่น ปิเปตอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถนำมอเตอร์สเต็ปเปอร์ไฮบริดมาติดตั้งได้

 

การย่อส่วนเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายอุตสาหกรรม และได้กลายเป็นแนวโน้มหลักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ระบบการเคลื่อนที่และการจัดตำแหน่งซึ่งใช้ในการผลิต การทดสอบ หรือการใช้งานในห้องปฏิบัติการในชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องใช้มอเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าและทรงพลังกว่า อุตสาหกรรมมอเตอร์ได้ออกแบบและผลิตมอเตอร์สเต็ปเปอร์ขนาดเล็กมาเป็นเวลานานแล้ว และยังไม่มีมอเตอร์ที่มีขนาดเล็กเพียงพอสำหรับการใช้งานหลายประเภท ในกรณีที่มอเตอร์มีขนาดเล็กเพียงพอ มอเตอร์เหล่านี้ก็ขาดคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน เช่น การให้แรงบิดหรือความเร็วสูงเพียงพอที่จำเป็นต่อการแข่งขันในตลาด ทางเลือกที่น่าเศร้าคือการใช้มอเตอร์สเต็ปเปอร์ที่มีโครงขนาดใหญ่และย่อส่วนส่วนประกอบอื่นๆ ทั้งหมดรอบๆ มอเตอร์ โดยมักจะใช้ตัวยึดพิเศษและการติดตั้งฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม การควบคุมการเคลื่อนที่ในพื้นที่เล็กๆ นี้มีความท้าทายอย่างยิ่ง ทำให้วิศวกรต้องประนีประนอมกับสถาปัตยกรรมพื้นที่ของอุปกรณ์

 

มอเตอร์ DC แบบไร้แปรงถ่านมาตรฐานจะรองรับตัวเองทั้งทางโครงสร้างและกลไก โดยโรเตอร์จะแขวนอยู่ภายในสเตเตอร์ด้วยฝาปิดทั้งสองด้าน และอุปกรณ์ต่อพ่วงใดๆ ที่ต้องติดตั้ง โดยปกติจะยึดด้วยสลักเกลียวกับฝาปิด ซึ่งคิดเป็น 50% ของความยาวมอเตอร์ทั้งหมด มอเตอร์แบบไม่มีกรอบช่วยลดขยะและความซ้ำซ้อนเนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้ตัวยึด แผ่น หรือตัวยึดเพิ่มเติม และตัวรองรับทางโครงสร้างและกลไกทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการออกแบบสามารถรวมเข้ากับภายในมอเตอร์ได้โดยตรง ข้อดีของสิ่งนี้คือสเตเตอร์และโรเตอร์สามารถรวมเข้ากับระบบได้อย่างราบรื่น ลดขนาดโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ

 

การย่อขนาดของมอเตอร์สเต็ปเปอร์นั้นเป็นเรื่องท้าทาย และประสิทธิภาพของมอเตอร์นั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับขนาดของมอเตอร์ เมื่อขนาดเฟรมเล็กลง พื้นที่สำหรับแม่เหล็กโรเตอร์และขดลวดก็ลดลงตามไปด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อแรงบิดสูงสุดที่สามารถใช้ได้เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความเร็วที่มอเตอร์สามารถทำงานได้ด้วย ความพยายามในอดีตในการสร้างมอเตอร์สเต็ปเปอร์ไฮบริดขนาด NEMA6 ส่วนใหญ่ล้มเหลว แสดงให้เห็นว่าขนาดเฟรม NEMA6 นั้นเล็กเกินไปที่จะให้ประสิทธิภาพที่มีประโยชน์ได้ ด้วยการใช้ประสบการณ์ในการออกแบบตามสั่งและความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ อุตสาหกรรมมอเตอร์จึงสามารถสร้างเทคโนโลยีมอเตอร์สเต็ปเปอร์ไฮบริดที่ล้มเหลวในด้านอื่นๆ ได้สำเร็จ มอเตอร์สเต็ปเปอร์ประเภท NEMA 6 ไม่เพียงแต่ให้แรงบิดแบบไดนามิกที่ใช้ได้ในปริมาณมากที่ความเร็วสูงเท่านั้น แต่ยังให้ความแม่นยำในระดับสูงอีกด้วย

ด้วยมอเตอร์แม่เหล็กถาวรทั่วไปที่มี 20 ขั้นต่อรอบ หรือ 18 องศาของมุมขั้น เมื่อเทียบกับมอเตอร์ 3.46 องศา มอเตอร์สามารถให้ความละเอียดได้ 5.7 เท่า และความละเอียดที่สูงขึ้นนี้แปลโดยตรงเป็นความแม่นยำที่สูงขึ้น ทำให้เกิดมอเตอร์สเต็ปเปอร์ไฮบริด เมื่อรวมกับการเปลี่ยนแปลงมุมขั้นและการออกแบบโรเตอร์ที่มีแรงเฉื่อยต่ำ มอเตอร์จึงสามารถสร้างแรงบิดแบบไดนามิกได้เกิน 28 กรัมที่ความเร็วใกล้ 8,000 รอบต่อนาที ให้ประสิทธิภาพความเร็วที่ใกล้เคียงกับมอเตอร์ DC แบบไม่มีแปรงถ่านมาตรฐาน การเพิ่มมุมขั้นจาก 1.8 องศาทั่วไปเป็น 3.46 องศา ทำให้ได้แรงบิดยึดเกือบสองเท่าของการออกแบบที่ใกล้เคียงที่สุดในการแข่งขัน และด้วยแรงบิดยึดสูงสุดถึง 56 กรัม/นิ้ว แรงบิดยึดจึงเกือบสี่เท่าของมอเตอร์สเต็ปเปอร์ PM ทั่วไปที่มีขนาดเท่ากัน (สูงสุด 14 กรัม/นิ้ว)

 

บทสรุป

มอเตอร์ไมโครสเต็ปเปอร์สามารถใช้ได้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการโครงสร้างที่กะทัดรัดในขณะที่ยังคงความแม่นยำระดับสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ที่คุ้มค่ากว่า ตั้งแต่ห้องฉุกเฉิน ไปจนถึงข้างเตียงผู้ป่วย ไปจนถึงอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการ ปัจจุบันมีผู้สนใจปิเปตแบบพกพาเป็นจำนวนมาก มอเตอร์สเต็ปเปอร์ขนาดเล็กให้ความละเอียดสูงที่จำเป็นในการจ่ายสารเคมีอย่างแม่นยำ และมอเตอร์เหล่านี้มีแรงบิดที่สูงกว่าและคุณภาพสูงกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เทียบเคียงได้ในตลาด สำหรับห้องปฏิบัติการ มอเตอร์สเต็ปเปอร์ขนาดเล็กกลายเป็นมาตรฐานด้านคุณภาพ ขนาดที่กะทัดรัดทำให้มอเตอร์สเต็ปเปอร์ขนาดเล็กเป็นโซลูชันที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นแขนหุ่นยนต์หรือเวที XYZ ธรรมดา มอเตอร์สเต็ปเปอร์เชื่อมต่อได้ง่ายและสามารถใช้งานแบบวงเปิดหรือวงปิดได้

 

หากต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับมอเตอร์ไมโคร โปรดติดตาม Vic tech Micro Motor Technology!

หากคุณต้องการสื่อสารและร่วมมือกับเรา กรุณาติดต่อเรา!

เราโต้ตอบอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า รับฟังความต้องการของพวกเขาและดำเนินการตามคำขอของพวกเขา เราเชื่อว่าความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการลูกค้า

Changzhou Vic-tech Motor Technology Co., Ltd. เป็นองค์กรวิจัยและผลิตระดับมืออาชีพที่เน้นการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับมอเตอร์ โซลูชันโดยรวมสำหรับแอปพลิเคชั่นมอเตอร์ และการแปรรูปและผลิตผลิตภัณฑ์มอเตอร์ บริษัท Changzhou Vic-tech Motor Technology Co., Ltd. มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตมอเตอร์ขนาดเล็กและอุปกรณ์เสริมตั้งแต่ปี 2011 ผลิตภัณฑ์หลักของเรา ได้แก่ มอเตอร์สเต็ปเปอร์ขนาดเล็ก มอเตอร์เฟือง มอเตอร์เฟือง เครื่องขับเคลื่อนใต้น้ำ และไดรเวอร์มอเตอร์และตัวควบคุม

 

ทีมงานของเรามีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในการออกแบบ พัฒนา และผลิตไมโครมอเตอร์ และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่วยออกแบบตามความต้องการพิเศษของลูกค้าได้ ในปัจจุบัน เราขายให้กับลูกค้าในหลายร้อยประเทศในเอเชีย อเมริกาเหนือ และยุโรปเป็นหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เกาหลี เยอรมนี แคนาดา สเปน เป็นต้น ปรัชญาการดำเนินธุรกิจของเราที่เน้น "ความซื่อสัตย์และความน่าเชื่อถือ เน้นคุณภาพ" และบรรทัดฐานคุณค่า "ลูกค้ามาก่อน" สนับสนุนนวัตกรรมที่เน้นประสิทธิภาพ การทำงานร่วมกัน จิตวิญญาณแห่งองค์กรที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้าง "การสร้างและแบ่งปัน" เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างมูลค่าสูงสุดให้กับลูกค้าของเรา